“อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากิน ร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบานรีบมาเร็วไว ยิ้มรับวันใหม่ยิ้มให้แก่กัน” (เพลงประกอบรายการเจ้าขุนทอง)
สุขสันต์วันเด็ก เปิดศักราชใหม่ด้วยความสดใส เด็กๆ หลายคนอาจกำลังสนุกสนานอยู่กับกิจกรรมที่ผู้ใหญ่จัดขึ้น เพื่อเอาใจเด็กดีให้มีพลังที่จะต้องเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติ
เพลงนี้คุ้นๆ หูกันบ้างหรือเปล่า ถ้าคุ้นหูกันล่ะก็ แสดงว่าเราคือเด็กยุค 90 ที่เติบโตมาพร้อมกับการ์ตูนและรายการน้ำดีตอนเช้าตรู่อย่างรายการ "เจ้าขุนทอง" ที่ออกอากาศทางช่อง 7 ทุกวันเสาร์ เวลา 6 โมงเช้า เริ่มออกอากาศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 และได้เลิกออกอากาศอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2561 แม้ยุติการออกอากาศไปแล้ว แต่เจ้าขุนทองยังคงอยู่ในความทรงจำ ที่เมื่อได้ยินเพลงขึ้นมาเมื่อใดจะต้องร้องเป็นทำนองเพลงนี้เสมอ
รายการเจ้าขุนทองมีเอกลักษณ์ที่สร้างความน่าจดจำ โดยมีตัวละครเป็นตุ๊กตาหุ่นเชิดรูปสัตว์นานาชนิดมาพร้อมกับชื่อไทยๆ อย่าง ขอนลอย จระเข้สีเขียวขวัญใจเด็กๆ ลุงมะตูม ลุงเต่าที่คอยเล่านิทานให้ฟัง สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขุนทอง นกขุนทองสีดำอุปนิสัยฉลาด น่ารัก ซึ่งเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่องเลยก็ว่าได้
เจ้าขุนทองเป็นเหมือนนาฬิกาคอยปลุกเด็กๆ ให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลในเช้าวันหยุด และสิ่งนี้กลายเป็นการสร้างนิสัยให้เด็กตื่นเช้ามาทำกิจกรรม มีเวลาในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น รายการเจ้าขุนทองยังสอดแทรกการใช้ภาษาไทยร่วมกับความสนุกสนานของเรื่องราวในแต่ละตอน ผ่านตัวละครโดยการพากย์ ซึ่งผู้พากย์เสียงในทุกบทสนทนา ทุกถ้อยคำ ทุกพยัญชนะ ผู้พากย์ออกเสียงได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ตามหลักภาษาไทย สิ่งเหล่านี้ปลูกฝังการใช้ภาษาไทยให้เด็กๆ ได้ดีทีเดียว นอกจากความสนุกสนานและการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องแล้ว รายการเจ้าขุนทองยังเปรียบเสมือนขุมความรู้ที่สอดแทรกข้อคิดดีๆ ไว้มากมายอีกด้วย
ถึงแม้ว่า รายการเจ้าขุนทองจะยุติการออกอากาศไปแล้วก็ตาม แต่ความทรงจำไม่ได้ยุติลง คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมื่อใดที่ได้ยินชื่อ เจ้าขุนทอง ลุงมะตูม ขอนลอย ขึ้นมา บทเพลงเจ้าขุนทองจะดังก้องขึ้นมาในหัวเหมือนกับมีเจ้าขุนทองมาเจื้อยแจ้วเจรจา ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
“เจ้าขุนทอง ( เจื้อยแจ้วเจรจา)”