วันแห่งความรักถูกกำหนดให้เป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุก ๆ ปี แต่เราสามารถมีความรักให้แก่กันและกันได้ในทุก ๆ วัน เฉกเช่นความรักที่ไซคีมีให้คิวปิดจนต้องพยายามพิสูจน์รักของตน
ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์ ในทุก ๆ ปีจะถูกจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับความรัก หรือไม่ก็ประดับตกแต่งด้วยดอกกุหลาบ ดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความรัก แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเล่า ก็คงไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธการกล่าวถึงตำนานรักของไซคีและคิวปิด
ในวันนี้เราจะมาเล่าตำนานความรักด้านของไซคี สตรีผู้เลอโฉม มีความงดงามจนได้รับความเกลียดชังจากเทพีอโฟร์ไดท์ เพราะความงามของไซคีทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างหลงใหลได้อย่างง่ายดายจนลืมบูชาเทพีอโฟร์ไดท์ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เทพีอโฟร์ไดท์วางแผนให้คิวปิดแผลงศรใส่ไซคี เพื่อให้นางได้ตกหลุมรักกับชายอัปลักษณ์สักคน แต่กลับกลายเป็นคิวปิดที่ได้ตกหลุมรักนางเสียเอง
เมื่อเหตุการณ์กลับตาลปัตรไปแล้ว คิวปิดจึงไปขอร้องเหล่าเทพเจ้าช่วยดลบันดาลไม่ให้มีชายใดมาสู่ขอไซคี กระทั่งพี่สาวทั้งสองของนางแต่งงานกันไปแล้วก็ยังไม่มีชายใดมาสู่ขอนาง ท่านพ่อและท่านแม่ของไซคีจึงพานางไปขอพรที่มหาวิหารของเทพอะพอลโล จนได้รับคำพยากรณ์มาว่า เนื้อคู่ของนางไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งเขารอคอยนางอยู่ ณ ยอดเขา แต่ห้ามไม่ให้นางมองคู่ครองของตนเอง
พอนางไปถึงทุ่งหญ้าเขียวขจี ปราสาทหลังงามที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมนต์ของคิวปิดก็ปรากฏขึ้น เมื่อตกกลางคืนคิวปิดก็จะมาอยู่กับนาง แต่มีข้อแม้ว่าห้ามนางมองหน้า แต่หลายเดือนผ่านไปคิวปิดก็ได้จากไซคีไปตลอดกาล เหตุเพราะนางโดนยุยงจากพี่สาวทั้งสองว่าให้จุดไฟเพื่อมองหน้าสามีของตน และไซคีก็ดันหลงกลไปกับคำยุยงของพี่สาว ทั้งก่อนจากกันคิวปิดยังทิ้งประโยคแสนเจ็บปวดทิ้งไว้อีกหนึ่งประโยคว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ ข้าจะลงโทษเจ้าด้วยการจากเจ้าไปตลอดกาล”
หลังจากเหตุการณ์นั้นไซคีก็ได้สำนึกผิดในสิ่งที่ตนทำ และพยายามฆ่าตัวตายอยู่หลายหน แต่ก็ไม่สำเร็จเลยสักหนเพราะคิวปิดคอยเฝ้ามองและขัดขวางอยู่ตลอด แต่ไม่กล้าปรากฏตัวเพราะคิวปิดกลัวเทพีอโฟร์ไดท์หรือมารดาของตนจะรู้เข้า ไซคีจึงเดินทางไปยังมหาวิหารของเทพีอโฟร์ไดท์เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เพราะอโฟร์ไดท์เกลียดชังไซคีเป็นทุนเดิม จึงกลั่นแกล้งด้วยการมอบภารกิจที่ยากเกินมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะทำได้ให้กับไซคี
ภารกิจแรก ไซคีต้องคัดแยกเมล็ดข้าวสารที่ปนอยู่ในพืชหลายชนิดกองใหญ่ออกจากกันภายในคืนเดียว
ภารกิจที่สอง การนำขนแกะทองคำมามอบให้วีนัสซึ่งแกะทองคำตัวนั้นเป็นที่ลือกันว่า มันมักจะขวิดนักเดินทาง
ภารกิจสุดท้าย ไซคีต้องเกลี้ยกล่อมเทพีพรอสเซอร์พินา เพื่อให้แบ่งความงามของนางหนึ่งหยดและใส่กล่องมาให้เทพีอโฟร์ไดท์
ไซคีสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ เพราะคิวปิดแอบช่วยอยู่ลับ ๆ แต่อโฟร์ไดท์ก็ยังไม่ยอมให้อภัย ด้วยนางรู้ว่าต้องมีคนแอบช่วยไซคีแน่ แต่ครั้งนี้ไม่ง่ายเฉกเช่นครั้งก่อน มารดาของคิวปิดได้มอบภารกิจสุดท้ายคือ ให้ไซคีไปนำเครื่องประทินโฉมของเทพีเพอร์เซโฟนี ราชินีแห่งโลกหลังความตาย เพื่อนำเครื่องประทินโฉมไปใส่หีบใบเล็กที่เตรียมไว้ให้และห้ามเปิดมัน และนางก็ได้ความช่วยเหลือจากเสียงปริศนาจึงทำให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ด้วยความที่ผู้หญิงธรรมดาอย่างไซคีอยากสวยขึ้นเพื่อให้คิวปิดประทับใจในตนมากกว่าเดิม จึงได้เปิดหีบนั้นดูแต่ปรากฏว่า แท้จริงแล้วเครื่องประทินความงามที่อโฟร์ไดท์ต้องการคือ “นิทรา” นั่นเอง ไซคีจึงหลับใหลไปตลอดกาลเพราะสูดควันเข้าไป
คิวปิดเกิดทนไม่ไหวจึงได้เข้าไปช่วยเหลือนาง ทำให้นางฟื้น และได้ย้ำเตือนกับความผิดพลาดในสิ่งที่นางทำลงไป โดยมหาเทพซูสก็ประทานน้ำอัมฤทธิ์ให้ไซคีดื่ม นางจึงกลายเป็นอมตะ และท้ายที่สุดไซคีจึงได้ครองรักกับคิวปิดไปตลอดกาล
แหล่งข้อมูล : https://teen.mthai.com/love/164934.html
https://www.weddinglist.co.th/blog/cupid-and-psyche/