หากพูดถึงวัฒนธรรมอีสาน หมอลำถือว่าเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าอยู่กับวิถีชีวิตของชาวอีสานมาช้านาน และเหนือสิ่งอื่นใด ที่ขาดไม่ได้ในการแสดงหมอลำนั้นคือการแสดงตลก ซึ่งตัวตลกนั้นมักใช้กะเทยทำการแสดงหรือในบางคณะอาจเป็นผู้ชายแต่งกายคล้ายหญิง โดยเป็นตัวละครที่คอยสร้างสีสันความบันเทิง เสียงหัวเราะ ให้กับเหล่าบรรดาผู้ชม
ปัจจุบันคณะหมอลำคณะต่างๆ ล้วนต้องมีนักแสดงตลกเป็นส่วนหนึ่งของคณะ ต่างจากในอดีตที่จะเป็นเพียงการลำเรื่องต่อกลอนเป็นนิทานสอนใจ แต่ปัจจุบันเพื่อเพิ่มความหลากหลายและต้องทำให้ดึงดูดความสนใจของคนดู จึงต้องมีการแสดงตลกขึ้นเพื่อให้นักร้องเปลี่ยนองค์ทรงเครื่อง รวมถึงให้เหล่าแดนเซอร์ได้พักเหนื่อยจากการเต้นโชว์
แต่ถ้าหากมองผ่านตัวละครตลกบนเวทีหมอลำไป เราเคยสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมเมื่อเป็นตัวละครตลก ทางคณะหมอลำถึงเลือกให้กะเทยหรือชายแต่งกายคล้ายหญิงเป็นผู้รับบทนี้? เหตุใดถึงไม่ให้ผู้ชายหรือผู้หญิงเป็นผู้แสดงบ้าง
นั่นอาจเป็นเพราะว่าสังคมยังติดภาพจำที่ฉายซ้ำๆ โดยวางคาแรคเตอร์ “กะเทย” ต้องอยู่คู่กับความสนุกสนาน สร้างสีสันผ่านเสียงหัวเราะ
ไม่ใช่เพียงแค่ตัวตลกบนเวทีหมอลำที่ถูกสร้างภาพจำผ่านกะเทยเท่านั้น แต่ในละคร หนัง หรือซีรีส์ ตัวละครที่เป็นกลุ่ม LGBT มักถูกวางคาแรคเตอร์ให้เป็นตลกโปกฮาให้กับเรื่อง หรือเป็นตัวร้าย ตัวอิจฉาที่คอยกลั่นแกล้งและใช้ความรุนแรง รวมถึงอิริยาบถที่เล่นใหญ่เกินความเป็นจริง หรือการแต่งหน้าที่ดูมากเกินไปกว่าปกติ ทั้งๆ ที่ในชีวิตจริงไม่ใช่ทุกคนที่จะแต่งตัวหรือมีบุคลิกแบบนั้น
แม้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องสมมติผ่านตัวละคร แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าภาพฉายซ้ำเหล่านี้ มีอิทธิพลต่อการรับรู้และความคิดของผู้รับสารได้เช่นกัน ซึ่งบริบทโดยทั่วไปแล้วคนในสังคมไทยบางส่วนยังคงมองกะเทยในมุมมองที่ไม่ดีเท่าใดนัก
“สอยๆ พี่น้องฟังสอย นกแตดแต้บินข้ามปายเต้ย บ้านใด๋บ่มีกระเทย บ้านนั้นบ่พัฒนา อันนี้กะว่าสอย”
โดยคำสอยของอีสานข้างต้นจะแสดงให้เห็นว่ากระเทยเปรียบเหมือนกลุ่มคนที่คอยสร้างสีสันสร้างความสนุกสนาน ทำให้คนรอบข้างมีความสุขและสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่นนั้นๆ หรือทำให้หมู่บ้านพัฒนาไปพร้อมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
ซึ่งคำสอยเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะของชาวอีสานที่สอดแทรกความบันเทิง และแฝงไปด้วยอารมณ์ขันทำให้เกิดความสนุกสนาน ส่วนใหญ่นิยมกล่าวถึงเรื่องเพศเพื่อสร้างสีสันให้กับบทสอย
เมื่อสังคมเลือกที่จะโฟกัสกลุ่มกะเทยเพียงเพราะมุมที่ตลก นั่นจึงเป็นคุณสมบัติที่พวกเขาบางคนคิดว่าตัวเองจำเป็นจะต้องมี จึงไม่แปลกหากจะเห็นกะเทยเป็นเพศที่ดูสนุกสนานอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากะเทยทุกคนจะเป็นตัวตลก การที่กะเทยถูกเหมารวมว่าเป็นคนตลก อาจเป็นมาจากการที่สภาพแวดล้อมของพวกเขามีแต่ความสนุก มีการหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ปราศจากความเคลียด จึงถูกตีความว่ามันคือสิ่งที่ตลก แต่ที่ความเป็นจริงแล้วนั่นคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนเป็น
แม้สังคมไทยเปิดกว้างในเรื่องของความหลากหลายทางเพศ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากความสามารถที่โดนเด่นหรือความสำเร็จที่เป็นที่ยอมรับของสังคม ทำให้บางครั้งลืมไปว่าการยอมรับทุกเพศสภาพควรได้รับสิทธิด้านการแสดงออกทางเพศอย่างเสรีในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการพิพากษาจากกรอบของสังคม
ขอบคุณรูปภาพจาก : บ่าวภูไทสตูดิโอ
เรื่อง : ประกฤติ โคตพงษ์, วุฒิพงษ์ มงคลล้ำ