27 Year Brandon Teena หนุ่มข้ามเพศผู้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงตัวตนของ กลุ่มทรานส์เจนเดอร์

ในปัจจุบันโลกของเรามีการยอมรับกลุ่ม ‘ทรานส์เจนเดอร์’ หรือ ‘กลุ่มคนข้ามเพศ’ รวมถึงกลุ่มรักร่วมเพศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างชายชาย ชายหญิง หญิงหญิง หรือแม้กระทั่งความรักระหว่างชายข้ามเพศและหญิงข้ามเพศ แต่เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อ 27 ปีก่อน การยอมรับในเรื่องนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ผิดบาป

แบรนดอน ทีนา หรือชื่อเดิมคือ ทีนา แบรนดอน เกิดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 1972 ในลินคอล์น เนแบรสกา สหรัฐอเมริกา เธอเกิดมาพร้อมเพศสภาพที่เป็นหญิง แต่จิตใจของเธอรับรู้ได้ว่าเธอนั้นเป็นชาย ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความโหดร้ายและความกดดัน เริ่มจากพ่อที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ก่อนเธอจะเกิดเพียงแปดเดือน จึงทำให้เธอถูกเลี้ยงโดยโจแอนแม่ของเธอโดยลำพัง นอกจากนี้เธอก็ยังมีน้องสาวอีกหนึ่งคนชื่อแทมมี่

ครอบครัวของเธอได้ย้ายไปยังตะวันออกเฉียงเหนือของลินคอล์น โดยแม่ของเธอได้ทำงานเป็นเสมียนในร้านค้าปลีกของผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยเหลือครอบครัวของเธอ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่แบรนดอนและน้องสาวของเธอถูกทารุณกรรมทางเพศโดยลุงของเธอตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้แบรนดอนยังถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากเธอไปประท้วงนักบวชที่ห้ามเกี่ยวกับการรักร่วมเพศ ทั้งยังล้มเหลวจากการไปสมัครเป็นทหารในกองทัพสหรัฐฯ เพราะอ้างตนว่าเป็นผู้ชาย

ในฤดูร้อนของปี 1991 แบรนดอนเริ่มแต่งตัวและออกเดตกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา หากแต่แม่ของเธอไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับในการเป็นหญิงข้ามเพศของเธอ เพราะยังคิดว่าแบรนดอนสมควรที่จะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย จึงทำให้เธอรู้สึกกดดันและเครียดเอามากๆ จนในเดือนมกราคม 1992 ผลการประเมินสุขภาพจิตของแบรนดอนพบว่ามีความเครียดจากความทุกข์ทรมานเรื่องเพศเข้าขั้นวิกฤต และแบรนดอนพยายามที่จะฆ่าตัวตาย ทำให้ต้องถูกบำบัดทางจิตชั่วคราว

ด้วยชีวิตที่ขมขื่นและด้วยปัญหาทางกฎหมายบางอย่าง (ปลอมแปลงเอกสารและขโมยเงิน) แบรนดอนตัวคนเดียวจึงย้ายไปยังชนบทเล็กๆ ในเนแบรสกา ที่นั่นไม่มีใครรู้จักเธอ เธอจึงทำการเปลี่ยนชื่อจาก ทีนา แบรนดอน เป็นแบรนดอน ทีนา แต่งตัวและใช้ที่รัดหน้าอกทำให้เธอเหมือนกับเด็กหนุ่มทั่วไป และด้วยความหน้าตาดีของแบรนดอนทำให้เธอป๊อปปูล่าในหมู่สาวๆ ในเมือง รวมถึงได้รับการต้อนรับจากกลุ่มอันธพาลในฐานะสมาชิกใหม่ของที่นั่นจากความเป็นหนุ่มห้าวเป้งใจถึง

แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่าความลับไม่มีในโลก เมื่อแบรนดอนถูกจับในข้อหาทำการปลอมแปลงเอกสารและขโมยชื่อ เพศสภาพของเธอจึงถูกเปิดเผย ทำให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นหญิงข้ามเพศ ซึ่งในเนแบรสกาที่เป็นชนบทนั้นค่อนข้างเคร่งในเรื่องของศาสนาและไม่ยอมรับในเรื่องของกลุ่มคนข้ามเพศ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนดอนและแฟนสาว หรือแม้กระทั่งกลุ่มเพื่อนของเขาเปลี่ยนไป จากที่เคยได้รับการยอมรับและต้อนรับเป็นอย่างดีกลับเปลี่ยนไปในทางที่เราเองก็คาดไม่ถึง ซึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เพียงเพราะแบรนดอนที่พวกเขารู้จักไม่ได้มีเพศสภาพอย่างที่พวกเขาคิด

ซ้ำหลังพ้นโทษแบรนดอนยังถูกจับแก้ผ้าเพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นเพศอะไรกันแน่จากกลุ่มเพื่อนอันธพาลของเธอ ทำให้แบรนดอนรู้สึกอายและเจ็บปวดจนต้องร้องไห้ออกมาอย่างจำยอม จากที่เคยบอกกับตัวเองเอาไว้ว่า “ลูกผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอก” ทั้งยังถูกรุมข่มขืนและเสียชีวิตด้วยการโดนฆาตกรรมในที่สุด

ภายหลังเมื่อเหตุการณ์การเสียชีวิตของแบรนดอน ทีน่า ถูกเผยแพร่ออกไปยังสาธารณะก็ทำให้ทางสหรัฐฯ ออกมารณรงค์เรื่องความหลากหลายทางเพศ รวมถึงให้อิสรภาพทางเพศมากขึ้น

ต่อมาเรื่องราวของแบรนดอนถูกนำไปเสนอผ่านม้วนฟิล์ม ในภาพยนตร์เรื่อง Boys Don't Cry (1999) “ลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้” เป็นผลงานกำกับของ Kimberly Peirce ที่เขียนบทร่วมกับ Andy Bienen ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 1999 โดยภาพยนตร์กวาดรางวัลไปได้กว่า 50 รายการ และทำรายได้มากถึง 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากทุนสร้างประมาณ 2 ล้านเหรียญ และถือว่าเป็นภาพยนตร์กระแสหลักเรื่องแรกที่หยิบยกประเด็น ทรานส์เจนเดอร์ หรือการข้ามเพศมานำเสนอให้สังคมอเมริกาในช่วง 20 ปีที่แล้วให้ได้รู้จัก ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะเข้าใจคำๆ นี้ ยิ่งเป็นสังคมอเมริกาในสมัยนั้นที่มักมีความเชื่อว่าการข้ามเพศคือความผิดบาปอย่างร้ายแรง เราจึงคิดว่าช่างเป็นอะไรที่กล้าหาญกับการนำเรื่องจริงที่สังคมไม่เข้าใจมาเล่าผ่านภาพยนตร์เพื่อสร้างการรับรู้ การจดจำ และสร้างการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการข้ามเพศและรักร่วมเพศใหม่ในสังคม

ท้ายที่สุดแล้วเราเชื่อว่าไม่ว่าจะเพศชาย เพศหญิง หรือเพศใดๆ ก็ตาม ทุกคนล้วนเจ็บปวดได้ ร้องไห้เป็น ทุกคนต่างต้องการการยอมรับ หวังว่าทุกคนจะเคารพและเข้าใจในความแตกต่างกันของกันและกันมากขึ้น และอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมและเสมอภาคในโลกใบเดียวกันนี้

เรื่อง : กุลนัฐ บานสีดำ, ธันวา ปนสระน้อย