ความคิดที่ถูกกักขัง…ก่อให้เกิดโรคร้าย
มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนที่พูดเก่ง เข้าสังคมง่าย คุยกับใครก็ได้ กล้าคิด กล้าแสดงออก แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับบางคน
คนที่ไม่มีความกล้าที่จะแสดงความคิด ไม่กล้าที่จะเปิดเผยทัศนคติให้ใครรับรู้ กลัวคำวิพากษ์วิจารณ์ กลัวคนอื่นจะไม่ยอมรับความคิดและทัศนะคติของตัวเอง หรืออาจเรียกได้ว่า ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง หลายๆ คนที่เป็นเช่นนี้จึงเลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็น ยอมรับและตามความคิดของผู้อื่นอย่างไม่มีข้อสงสัย
แต่ในขณะที่ผู้คนเหล่านี้ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมานั้น อาจก่อให้เกิดความเครียด วิตกกังวล ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้ทำในสิ่งที่คิด ความคิดที่ถูกกักขังไว้ จึงสร้างภัยเงียบที่อันตรายขึ้นมา นั่นก็คือ “โรคซึมเศร้า”
ภาวะความเครียด ความวิตกกังวล จากการที่คนเราไม่ได้แสดงทัศนะคติความคิดออกมานั้น มักพบเห็นได้ในทุกเพศทุกวัย ถึงแม้จะไม่ได้เกิดกับทุกคนที่มีโรคส่วนตัวสูง แต่ในบางกรณีก็ส่งผลกระทบร้ายแรงจนกลายเป็นโรคอันตรายอย่างโรคซึมเศร้า หลายๆ คนพยายามหาวิธีที่เปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีความกล้ามากยิ่งขึ้น เช่น ลองมองโลกแง่บวก นั่งสมาธิ สวดมนต์ ฟังธรรม หากิจกรรมทำ แต่ท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ช่วยให้พวกเขามีความกล้า หรือ ลดความเครียดไปได้เลย
แล้วอะไรคือสิ่งที่จะทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ล่ะ ?
คำตอบคือ สิ่งที่ทุกๆ คนก็รู้อยู่แล้ว นั่นก็คือ การแสดงความกล้าของตัวเองออกมา
ถึงแม้อาจจะฟังดูพูดง่ายแต่ทำยาก แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย บางคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจากภาวะความเครียดนี้ สามารถที่จะหายได้ เพราะพวกเขาก้าวข้ามผ่านกลัวมาได้แล้ว พวกเขาได้แสดงความคิด ความเป็นตัวของตัวเองออกมาจนมีความมั่นใจยิ่งขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนมายอมรับหรือเห็นด้วยกับความคิดของพวกเขา เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ทุกคนจะถูกใจในสิ่งที่พวกเขาทำถึงแม้ว่าจะทำตามอย่างคนอื่นหรือเลือกจะอยู่เงียบๆ ก็ตาม
เพราะเช่นนั้นแล้ว มันจะเสียหายอะไรถ้าหากคนที่ไม่มีความกล้าอะไรเลย จะพยายามลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีความกล้าสักครั้ง กล้าแสดงออกในสิ่งที่คิดอย่างเต็มที่ กล้าเป็นตัวของตัวเองอย่างมั่นใจ กล้าปฎิเสธบ้าง กล้ารับฟังคำวิจารณ์คนอื่น ถึงแม้จะไม่ถูกใจใครบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าการที่อยู่กับความกลัวความวิตกกังวลนี้ไปเรื่อยๆ จนก่อให้เกิดภัยเงียบอันตรายและสงผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างโรคซึมเศร้า