เครื่องหยอดข้าวโมเดลนางาม นวัตกรรมใหม่ปรับระบบการทำนา ลดแรง ลดเวลา ประหยัดต้นทุน

เครื่องหยอดข้าวโมเดลนางาม นวัตกรรมใหม่ปรับระบบการทำนา ลดแรง ลดเวลา ประหยัดต้นทุน

เกษตรกรร้อยเอ็ดสร้างสรรค์ คิดค้นเครื่องหยอดข้าว พัฒนาระบบการทำนาให้มีความก้าวหน้า ผลิตอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงในการทำนา เพิ่มผลผลิต ย่นเวลา ลดต้นทุนในการซื้อสารกำจัดศัตรูพืช เพื่อการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ ด้านเกษตรกรรายอื่นให้ความสนใจ หากเครื่องหยอดข้าวดังกล่าวสามารถตอบโจทย์การทำนาได้จริง
      เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด หนึ่งในจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกข้าวเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง มีแหล่งปลูกสำคัญอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอเกษตรวิสัย อำเภอสุวรรณภูมิ อำเภอโพนทอง และอำเภอปทุมรัตต์ ซึ่งในปัจจุบันชาวนาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงวัย เนื่องจากกลุ่มคนรุ่นใหม่หันไปทำงานในเมืองมากขึ้น จึงไม่มีคนมาสานต่อการทำนา ทำให้การทำนายังคงอยู่ในรูปแบบเดิม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังธัญทิพย์ฟาร์ม เพื่อติดต่อสอบถามเรื่องเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางาม ซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนการและระบบการทำนาให้ง่ายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง ลดต้นทุน และทุ่นแรงของชาวนา
      นายนิติพงษ์ เจาะจง (คุณต้น) เกษตรกรหนึ่งในกลุ่มเครือข่ายเกษตรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer (YSF 101) ผู้คิดค้นเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางาม กล่าวว่า แนวคิดการผลิตเครื่องหยอดข้าวดังกล่าวนั้น ได้แรงบันดาลใจมาจากตนเองตอนที่มีอาการปวดหลัง ซึ่งการทำนามีหลายวิธี เช่น นาหว่าน นาโยน นาดำ และการทำนาหยอด ตนเองเลือกการทำนาแบบวิธีการหยอด และได้คิดค้นนวัตกรรมเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามมาใช้ในการทำนาหยอด ซึ่งเครื่องหยอดข้าวดังกล่าว สามารถลดระยะเวลาการทำนาได้ โดยใช้เวลาเพียง 40 นาที เมื่อเปรียบเทียบกับการทำนาในรูปแบบอื่นๆ ที่มีขั้นตอนการเตรียมงานหลายขั้นตอน เช่น การทำนาหว่านจะต้องเตรียมแปลงหว่านกล้าและดูแลต้นกล้า ซึ่งใช้เวลาถึง 25-30 วัน หรือการทำนาโยนที่ต้องมีถาดเพาะและต้องใช้เวลา 12-15 วันในการเพาะ นา 1 ไร่ ต้องใช้ถาดเพาะประมาณ 40-50 ถาด หากโยนไม่สม่ำเสมอต้องมีการโยนซ่อม ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน
      นอกจากนี้ นายนิติพงษ์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า การใช้เครื่องหยอดข้าวนั้นสามารถลดต้นทุนในการทำนาได้มาก อาทิ ทำนาโดยการดำนา ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ 30 กิโลต่อ 1 ไร่ หากแต่เครื่องหยอดข้าวจะใช้เมล็ดพันธุ์ เพียง 4 กิโลครึ่ง ต่อนา 1 ไร่ อีกทั้งยังสามารถคัดเมล็ดพันธุ์ข้าวได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ช่วยลดต้นทุนในการซื้อยากำจัดศัตรูพืช เพราะเครื่องหยอดข้าวช่วยทำให้ข้าวขึ้นเป็นระเบียบและจัดการกับศัตรูพืชได้ง่าย การเรียงตัวของข้าวไม่หนาแน่นจนเกินไป ทำให้ศัตรูพืช เพลี้ย และหนอนไม่มีที่อยู่ ส่วนการทำนาหว่านจะทำให้เกิดหญ้าและมีการใช้สารเคมี หรือหากไม่ใช้ยาจะต้องใช้ปุ๋ยจำนวนมาก ทำให้ต้นทุนจะสูงตามไปด้วย
      นายนิติพงษ์ ยังเผยอีกว่า ขณะนี้การออกแบบโมเดลเครื่องหยอดข้าวมีอยู่ด้วยกัน 4 รุ่น คือ รุ่นมินิ รุ่นคลาสสิค รุ่นแม็กนั่ม และรุ่นเทอร์โบ ซึ่งต้นทุนในการผลิตเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นที่ 1 หากมีผู้สนใจที่จะนำไปใช้ในการทำนาในวิธีการทำนาหยอด โดยราคาของเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นที่ 1 จะใช้เกณฑ์ในการตั้งราคาเครื่องจากค่าไอเดียที่ตนได้ออกแบบและใช้ระยะเวลาในการปรับแก้จนกลายเป็นเครื่องหยอดข้าวที่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งราคาค่าเครื่องในแต่ละรุ่นต่างกันตามขนาดของเครื่อง และมีราคาดังนี้ เครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นมินิราคา 2,000 บาท เครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นคลาสสิคราคา 3,500 บาท เครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นแม็กนั่มราคา 4,000 บาท และเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นเทอร์โบราคา 4,500 บาท ในอนาคตมีแผนจะผลิตเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นที่ 2 เพื่อนำมาใช้งานร่วมกับรถไถแทนโมเดลนางามรุ่นที่ 1 ที่มีการใช้แรงงานคนในการหยอดข้าว โดยจะเพิ่มให้โมเดลนางามรุ่นที่ 2 สามารถใช้ฉีดฮอร์โมน หว่านปุ๋ย หว่านข้าว และสามารถต่อยอดไปทำเป็นกลุ่มเมล็ดพันธุ์ข้าวได้
      ด้านเกษตรกรที่ทำนาโดยระบบและวิธีการดั้งเดิม ให้ข้อมูลว่าตนนั้นยังเลือกทำนาแบบหว่าน เพราะมีความรวดเร็ว ทำได้ง่าย ประหยัดต้นทุน แต่มีปัญหาในเรื่องของหญ้าและวัชพืชที่กำจัดยาก ซึ่งต้องเพิ่มต้นทุนในการซื้อสารเคมี ส่วนผลผลิตที่ได้นั้นอยู่ที่ประมาณ 800-1000 กิโลกรัม ต่อ 1 ไร่ นอกจากนี้เกษตรกรที่ทำนาแบบหว่าน ระบุว่า ตนเคยได้ยินเรื่องเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางาม แต่ยังไม่เคยได้นำมาทดลองใช้ เพราะยังกังวลในเรื่องพื้นที่ของตนที่เป็นนาดินเหนียว เกรงว่าเมื่อนำเครื่องหยอดข้าวดังกล่าวมาใช้กับพื้นที่นาของตน จะทำให้เครื่องติดหล่มและใช้เวลาทำนานานขึ้น อีกทั้งยังกังวลว่าพื้นที่นาในแต่ละพื้นที่มีลักษณะของพื้นที่และผิวดินที่แตกต่างกัน หากนำโมเดลเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามมาใช้จริงจะสามารถใช้ได้กับทุกพื้นที่ได้จริงหรือไม่
      ด้านเกษตรกรอีกส่วนหนึ่ง ระบุว่า ตนนั้นยังไม่เคยได้ยินถึงเรื่องเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามว่าเป็นอย่างไร และมีการทำงานในรูปแบบใด ซึ่งหากการทำนาแบบใช้เครื่องหยอดข้าวโมเดลนางาม สามารถพัฒนากระบวนการและระบบในการทำนาให้ง่ายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง ลดต้นทุน และทุ่นแรงของชาวนาในการทำนาได้จริง ตนก็มีความสนใจที่จะนำเครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามมาทดลองใช้ในการทำนา
      นายนิติพงษ์กล่าวต่อว่า ในอนาคตจะผลิตเครื่องหยอดข้าวนางามรุ่นที่ 2 โดยโมเดลนางามรุ่นที่ 2 จะมีไฮโดริกที่ยกขึ้นยกลงและถอดชุดดำนาออก นอกจากนี้เครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นที่ 2 จะสามารถใช้ฉีดฮอร์โมน หว่านปุ๋ย หว่านข้าวได้ และลดการใช้แรงงานคนในการทำนา ซึ่งขณะนี้เครื่องหยอดข้าวโมเดลนางามรุ่นที่ 2 ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาและปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของเกษตรกรมากที่สุด

Top